บิ๊กแม็ตช์พรีเมียร์ลีกในวันเสาร์นี้เป็นเกมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ เชลซี ที่เริ่มแรงขึ้นมาเรื่อยๆ หลังจากที่นักเตะเริ่มกลับมาประจำการพร้อมหน้าพร้อมตา
แมนฯ ยูไนเต็ด (15) – เชลซี (8)
วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 / เวลา : 23.30 น.
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ราคาต่อรอง : แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อ 10-9
สถิติการพบกันที่ผ่านมา
วัน/เดือน/ปี รายการ ผลการแข่งขัน
20/07/20 เอฟเอ คัพ แมนฯ ยูไนเต็ด 1 – 3 เชลซี
18/02/20 พรีเมียร์ลีก เชลซี 0 – 2 แมนฯ ยูไนเต็ด
31/10/19 ลีก คัพ เชลซี 1 – 2 แมนฯ ยูไนเต็ด
11/08/19 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด 4 – 0 เชลซี
28/04/19 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด 1 – 1 เชลซี
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด
20/10/20 ชนะ เปแอสเช 2-1 (เยือน) ชปล.
17/10/20 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 4-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
04/10/20 แพ้ สเปอร์ส 1-6 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
30/09/20 ชนะ ไบรท์ตัน 3-0 (เยือน) ลีก คัพ
26/09/20 ชนะ ไบรท์ตัน 3-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของ เชลซี
20/10/20 เสมอ เซบีย่า 0-0 (เหย้า) ชปล.
17/10/20 เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
03/10/20 ชนะ คริสตัล พาเลซ 4-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
29/09/20 เสมอ สเปอร์ส 1-1 (เยือน) ลีก คัพ
26/09/20 เสมอ เวสต์บรอมวิช 3-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
ความพร้อมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พาทีมชนะสวยๆ มา 2 เกมติดต่อกัน หลังความพ่ายแพ้ต่อ สเปอร์ส 1-6 ด้วยการบุกชนะ นิวคาสเซิ่ล 4-1 ในพรีเมียร์ลีก ตามด้วยพลิกล็อกบุกชนะ เปแอสเช 2-1 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์
โซลชาร์ จะต้องตัดสินใจว่าจะใช้ระบบใดกับทีมโดยเฉพาะเกมรับจะใช้เซนเตอร์แบ็ก 3 ตัวเหมือนเกมกับ เปแอสเช หรือกลับมาใช้แบบแผงแบ็กโฟร์อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่พลาดเกมเมื่อกลางสัปดาห์จะพร้อมกับมาเป็นตัวเลือกสำหรับนัดนี้อีกครั้ง
แต่ที่แน่ๆ ก็คือ เอริก ไบยี่ ยังไม่น่าจะลงสนามได้เนื่องจากปัญหาเรื่องความฟิต คาดว่าจะต้องรอจนถึงเดือนหน้าทีเดียว
ทางแบ็กซ้ายตัวใหม่อย่าง อเล็กซ์ เตลลิส จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงนัดแรกในพรีเมียร์ลีก หลังจากเกมก่อนกับ นิวคาสเซิ่ล เขาเป็นตัวสำรองที่ไม่ได้ถูกใช้งาน
ในรายของกองหน้าตัวใหม่อย่าง เอดินสัน คาวานี่ ลงซ้อมอย่างหนักตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแฟนๆ ปีศาจแดง จะต้องลุ้นว่าเขาจะฟิตทันลงเล่นเกมนี้หรือไม่ด้วย
ส่วน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ยังคงติดโทษแบนอยู่ ขณะที่ เมสัน กรีนวู้ด ที่โดนถอดออกไปก่อนหน้านี้ก็พร้อมที่คัมแบ็กสู่ทีมในเกมนี้
ความพร้อมของ เชลซี
แฟร้งค์ แลมพาร์ด พาทีมไม่แพ้ใครมา 3 นัดติดต่อกันในบ้านตัวเองเริ่มจาก ชนะ คริสตัล พาเลซ 4-0, เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 และเสมอกับ เซบีย่า 0-0 เมื่อกลางสัปดาห์
สภาพทีมของ เชลซี ถือว่ายอดเยี่ยมเลย บิลลี่ กิลเมอร์ คือนักเตะคนเดียวของทีมที่บาดเจ็บและไม่พร้อมจะเป็นตัวเลือก
ติอาโก้ ซิลวา ที่ฟิตกลับมาเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก เกมเสมอ เซบีย่า 0-0 น่าจะได้ออกสตาร์ตตัวจริงนัดนี้โดย อันเดรส คริสเตนเซ่น ที่เล่นในเกม นิวคาสเซิ่ล จะหลุดไปนั่งสำรอง
แนวรุก 4 คนที่ แลมพาร์ด จะเลือกลงสนามก็น่าจะเป็นชุดเดิมจากสัปดาห์ก่อน ประกอบไปด้วย ติโม แวร์เนอร์, ไค ฮาแวร์ทซ์, เมสัน เมาน์ท และ คริสเตียน พูลิซิช
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด (ระบบ 4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, อเล็กซ์ เตลลิส – เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ – ฆวน มาต้า, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – เมสัน กรีนวู้ด (เอดินสัน คาวานี่)
ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
เชลซี (ระบบ 4-2-3-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ – เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ติอาโก้ ซิลวา, คูร์ท ซูม่า, เบน ชิลเวลล์ – จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ – คริสเตียน พูลิซิช, ไค ฮาแวร์ทซ์, เมสัน เมาน์ท – ติโม แวร์เนอร์
ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด
ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน
วิเคราะห์เกม : ทีมปีศาจแดงกลับมาเล่นได้อย่างน่ากลัวในฟุตบอลยุโรป และดูเหมือน โซลชาร์ จะแก้ปัญหาของทีมได้แล้ว แต่ตอนนี้กลับต้องมาคิดหนักว่าจะต้องถอด ตวนเซเบ้ ไปเป็นตัวสำรองหรือเปล่า หลังจากที่เล่นได้เด่นมากในแชมเปี้ยนส์ลีก แต่เชื่อว่าเปลี่ยนแน่นอน
เมื่อ แม็กไกวร์ กลับมาลงสนามก็ยังต้องคิดต่อไปอีกว่าจะเล่นได้ไม่ดีเหมือนที่ผ่านมาหรือเปล่า อาจจะผิดพลาดจนทำให้ เชลซี มีโอกาสยิงสวน ซึ่งแต่ละคนก็อันตรายทั้งนั้น
ฟันธง : ราคาเปิดมาเหมือนไม่อยากให้เล่น เพราะไม่มีต่อลูกกันเลย แบบนี้ก็ต้องเอาเจ้าบ้านไว้ก่อน ต่อ แมนฯ ยูฯ ไปสิครับ